ธุรกิจร้านอาหารเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง และมีปัญหามากมายที่ต้องรับมือ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่อยู่ได้ด้วยคุณภาพและความสดใหม่ของอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ดึงดูดลูกค้าไม่ให้เปลี่ยนใจไปไหน และในขณะเดียวกันก็ต้องทำการตลาด พร้อมกับการพัฒนาอาหารและบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าไปพร้อม ๆ กัน เพื่อคงสถานะความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเดียวกันได้
5 ปัญหาดังกล่าวนี้จึงเป็นความท้าทายหลักที่ธุรกิจร้านอาหารต้องให้ความสำคัญและหันมาแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างพื้นฐานของระบบปฏิบัติการที่แข็งแรง มีประสิทธิภาพ ลดความผิดพลาดให้ได้น้อยที่สุด และสร้างความประทับใจให้ลูกค้า รวมทั้งสร้างยอดขายและผลกำไรที่ดีกว่าเดิม พร้อมเติบโตต่อไปอย่างแข็งแกร่ง
1. ปัญหาในการบริหารจัดการ Inventory
ในธุรกิจร้านอาหาร โดยเฉพาะร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีหลายสาขา การบริหารคลังวัตถุดิบเพื่อให้มีวัตถุดิบพอดีสำหรับการดำเนินการแต่ละวันนั้นเป็นเรื่องที่เรียกได้ว่าแทบจะท้าทายที่สุด เพราะนอกจากจะต้องคำนึงถึงปริมาณของวัตถุดิบให้สั่งมาได้ในจำนวนที่พอดี ไม่มากเกินไปจนกลายเป็นเหลือทิ้ง หรือน้อยเกินไปจนเสียโอกาสในการขายแล้ว ยังต้องคำนึงถึงต้นทุนต่าง ๆ ไม่ให้ธุรกิจขาดทุน ไปจนถึงการควบคุมคุณภาพของวัตถุดิบและสินค้าให้ตรงตามมาตรฐานของร้านอีกด้วย การบริหารจัดการคลังวัตถุดิบ (Inventory) และห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) จึงถือเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจประเภทร้านอาหารเลยทีเดียว และต้องอาศัยการคำนวณและคาดการณ์ที่แม่นยำอย่างมากในการจัดการดูแล
แต่การใช้แรงงานคนเพียงอย่างเดียวในการบริหาร Inventory เป็นหลักอาจก่อให้เกิดความผิดพลาดในหลายแง่มุม เช่น การติดตามคลังวัตถุดิบที่ไม่ครอบคลุมพอทำให้ตัดสินใจสั่งวัตถุดิบผิดพลาด จนก่อให้เกิดการที่วัตถุดิบขาดสต๊อก หรือการมีคำสั่งซื้อที่ตกหล่นทำให้ไม่ได้วัตถุดิบตามที่วางแผนไว้ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อเนื่อง รวมถึงหากมีการเติบโตของธุรกิจที่ต้องรองรับจำนวนลูกค้าและเมนูที่เพิ่มมากขึ้น การใช้แรงงานคนเพียงอย่างเดียวอาจทำให้การขยายระบบการปฏิบัติงานเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มมากขึ้นทำได้ยาก และไม่ยั่งยืนสำหรับการพัฒนาธุรกิจในระยะยาว
ปัญหาเรื่องการจัดการบริหาร Inventory นี้จึงเป็นปัญหาหลักที่ทุกธุรกิจต้องเร่งแก้ไข เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานโดยรวม ที่กระทบต่อความพึงพอใจของลูกค้า และรายได้ของธุรกิจ
2. ปัญหาขยะอาหาร
ผลสำรวจจาก University of Arizona เปิดเผยว่า 11.3% ของอาหารในร้านอาหารถูกทิ้งให้เป็นขยะ และคิดเป็นต้นทุนมหาศาลที่ธุรกิจต้องแบกรับ โดยทั้งอุตสาหกรรมร้านอาหารรวมกัน คิดเป็นมูลค่าต้นทุนกว่า 162,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ทำให้สูญเสียกำไรกว่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี
ซึ่งขยะเหล่านี้มาจากหลากหลายขั้นตอน ตั้งแต่การสั่งวัตถุดิบที่อาจคำนวณมาไม่ดีพอ ทำให้เกิดวัตถุดิบเหลือทิ้ง การเตรียมอาหารที่เลือกใช้วัตถุดิบแค่บางส่วน ไปจนถึงการที่ลูกค้ารับประทานอาหารไม่หมด หรือเหลือวัตถุดิบตกแต่งจานไว้ ขยะที่มาจากแต่ละขั้นตอนนี้ สามารถจัดการได้ด้วยวิธีหลากหลาย เช่น การนำส่วนของวัตถุดิบที่ไม่ใช้ในจานหนึ่งไปแปรรูปเป็นอาหารอีกจาน หรือการปรับปริมาณอาหารในจานให้พอดีต่อการรับประทาน รวมไปถึงการใช้เทคโนโลยีมาช่วยจัดการคลังวัตถุดิบให้แม่นยำขึ้น
3. ปัญหาในการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า
ธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเครือร้านอาหารขนาดใหญ่ที่มีหลายสาขาและต้องควบคุมดูแลทุกสาขาให้บริการและคุณภาพอาหารอยู่ในมาตรฐานเดียวกัน และพร้อมตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละคนได้ทั้งด้านราคา เวลา และสถานที่ที่เหมาะสม
เพราะลูกค้ามีตัวเลือกร้านอาหารในมือมากมายที่ทำให้อาจเปลี่ยนใจได้ตลอดเวลา เพราะฉะนั้นธุรกิจร้านอาหารจึงต้องทำงานอย่างหนัก ตั้งแต่การสำรวจความต้องการของลูกค้า คิดแคมเปญการตลาดที่ดึงดูดให้กลับมาใช้บริการซ้ำ คิด Loyalty Program ที่คุ้มค่าให้ลูกค้าไม่เปลี่ยนใจไปไหน ให้การบริการที่ได้มาตรฐานและใส่ใจ และทั้งหมดนี้ต้องมีการ Personalized ให้เข้ากับลูกค้าแต่ละบุคคล พร้อมทั้งตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย
โดยต้องอาศัยทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเข้าใจลูกค้า และการรักษามาตรฐานและให้การบริการที่น่าประทับใจอยู่เสมอ แรงงานคนอาจทำทั้งหมดนี้ให้ออกมาไร้ที่ติไม่ได้ แต่เทคโนโลยีอัจฉริยะสามารถทำได้ โซลูชันเอไอจึงเป็นทางออกอย่างหนึ่งของปัญหาเหล่านี้
4. ปัญหาการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า
ในโลกที่เทคโนโลยีอย่างโซเชียลมีเดียสามารถสร้างเทรนด์ใหม่ ๆ ให้เข้ามาแล้วผ่านไปได้ในเวลาชั่วข้ามคืน ทำให้ความต้องการของลูกค้าและเทรนด์ต่าง ๆ ผกผันเป็นอย่างมาก ชื่อของร้านอาหารบางร้านอาจแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว (Go Viral) ในอินเทอร์เน็ต โดยที่ไม่ได้เตรียมตัวมาก่อน จนรับมือกับปริมาณลูกค้าที่เพิ่มขึ้นไม่ทัน หรืออาหารบางเมนูอาจได้รับความนิยมขึ้นมาอย่างรวดเร็ว จนร้านที่ไม่มีเมนูเหล่านั้นถือว่าตกเทรนด์ ภาระในการคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า (Demand Forecasting) และเทรนด์ต่าง ๆ จึงตกมาอยู่ที่ร้านอาหารเองที่ต้องเร่งเพิ่มความแม่นยำ เพื่อเตรียมตัวรองรับลูกค้าได้และไม่เสียโอกาสในการขาย
5. ปัญหาค่าขนส่งที่เพิ่มมากขึ้น
และปัญหาสุดท้ายที่ธุรกิจร้านอาหารมักจะเจอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงหลังวิกฤติโควิด-19 ที่ผ่านมา คือ ค่าขนส่งวัตถุดิบที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการที่ธุรกิจฟื้นตัว ทำให้ตารางการขนส่งแน่นมากขึ้น บริษัทขนส่งจึงต้องเพิ่มค่าบริการ จนกลายเป็นการเพิ่มต้นทุนที่ร้านต้องแบกรับ และค่าขนส่งเองก็ยังถือเป็นหนึ่งในต้นทุนที่มากที่สุดของร้าน จึงเป็นปัญหาที่ธุรกิจหาทางแก้ไข
ซึ่งหนึ่งในทางออกคือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการระบบ Supply Chain และเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจสั่งสินค้าแต่ละครั้งให้คุ้มค่าที่สุด เพื่อลดค่าใช้จ่ายที่ต้องแบกรับ
AI Ordering คำตอบของทุกปัญหาในธุรกิจร้านอาหาร
โซลูชัน AI Ordering จากเซอร์ทิส ตัวช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหาร Inventory และการสั่งซื้อวัตถุดิบต่าง ๆ โดยใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะอย่างเอไอ มาช่วยในการตัดสินใจสั่งวัตถุดิบในเวลาและจำนวนที่เหมาะสม เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มยอดขายได้อย่างยั่งยืน ทำให้ธุรกิจร้านอาหารของคุณพัฒนาความสามารถในการแข่งขันในอุตสาหกรรมที่มีการแข่งขันสูงได้
ช่วยคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าอย่างแม่นยำด้วยเอไอที่สามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ครอบคลุม ร่วมกับการวิเคราะห์คลังวัตถุดิบ เพื่อสั่งวัตถุดิบในจำนวนที่เหมาะสม ลดโอกาสการที่วัตถุดิบขาดสต๊อกจนเสียโอกาสในการขาย ลดความเสี่ยงของการสั่งวัตถุดิบมากเกินไปจนเกิดขยะ และต้นทุนจากวัตถุดิบ
ใช้เอไอมาช่วยบริหารและปรับปรุงคลังวัตถุดิบอย่างแม่นยำช่วยให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงจุด สร้างความพึงพอใจ และรักษาฐานลูกค้าไว้ได้
ลดต้นทุนทรัพยากรบุคลากร และลดความผิดพลาดด้วยเทคโนโลยีเอไอที่แม่นยำกว่า
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันเพื่อร้านอาหารและธุรกิจค้าปลีกจากเซอร์ทิสได้ที่: https://www.sertiscorp.com/retail
Comments