ทุกสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม และความสำเร็จทั้งหมดในประวัติศาสตร์โลก เกิดขึ้นได้เพราะคนที่มีวิสัยทัศน์ และกล้าริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งความสำเร็จเหล่านั้นล้วนเป็นสิ่งที่จุดประกายและให้บทเรียนอันล้ำค่ากับคนรุ่นต่อไป เพื่อให้ต่อยอดสร้างสิ่งใหม่ ๆ ที่จะพัฒนาโลกและธุรกิจให้ดีขึ้นต่อไปได้
วันนี้เซอร์ทิสจึงชวนทุกคนมาเรียนรู้ผ่านประสบการณ์และความสำเร็จของผู้นำสายเทคฯ ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมยิ่งใหญ่ที่ทั้งเปลี่ยนโลก และมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจในปัจจุบัน มาร่วมถอดบทเรียนที่กลั่นกรองจากประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ ที่จะจุดประกายความสำเร็จให้แวดวงเทคโนโลยีได้
1. ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในธุรกิจไม่สามารถสร้างขึ้นจากคนเพียงคนเดียว แต่เกิดจากความร่วมมือของทีม
“Great things in business are never done by one person. They're done by a team of people.” คือคำกล่าวจากผู้นำสายเทคฯ ชื่อดังอย่าง Steve Jobs ผู้สร้างหนึ่งในบริษัทที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อย่าง Apple โดย Steve Jobs เชื่อว่าการร่วมมือคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของผู้นำที่จะต้องส่งเสริมการทำงานร่วมกัน การแลกเปลี่ยนมุมมอง และการใช้ประโยชน์จากความสามารถที่แตกต่างกันของสมาชิกในทีม การร่วมมือกันจะทำให้เราสามารถสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ แก้ปัญหาที่ท้าทาย และก้าวหน้าไปพร้อมกันได้
2. ลูกค้าที่ไม่พอใจมากที่สุด คือแหล่งเรียนรู้ชั้นเยี่ยมของเรา
“Your most unhappy customers are your greatest source of learning.” เป็นคำที่ Bill Gates เจ้าพ่อ Microsoft เคยกล่าวเอาไว้ เพราะการเรียนรู้จากปัญหาคือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเฉพาะในแวดวงเทคโนโลยี เราต้องเรียนรู้ที่จะมองปัญหาในแง่ของโอกาสในการเติบโต โดยผู้นำต้องพร้อมวิเคราะห์ปัญหา รวบรวมข้อมูล และหาแนวทางแก้ไข เพราะการฟื้นตัวจากความล้มเหลวและก้าวไปข้างหน้าได้อย่างสวยงามคือหมุดหมายแห่งความสำเร็จ
3. ความเสี่ยงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือการไม่ยอมเสี่ยงอะไรเลย
“The biggest risk is not taking any risk. In a world that's changing really quickly, the only strategy that is guaranteed to fail is not taking risks.” Mark Zuckerberg ผู้นำของ Facebook หรือปัจจุบันคือ Meta คือผู้ให้บทเรียนนี้ เพราะในโลกของเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนด้วยการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ นั้น คนที่ไม่กล้าเสี่ยงที่จะริเริ่ม ทดลอง และล้มเหลวก็จะไม่มีวันสร้างสิ่งใหม่ ๆ ได้ เกิดเป็นความเสี่ยงสูงสุดที่จะทำให้เราผูกมัดอยู่กับที่เดิม ๆ ในขณะที่โลกก้าวไปข้างหน้า ดังนั้นเราต้องพร้อมที่จะกระโจนเข้าใส่ความไม่แน่นอน และตัดสินใจอย่างดีที่สุดเท่าที่ข้อมูลเอื้ออำนวย พร้อมยอมเสี่ยงเพื่อความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่า
4. เรียนรู้ที่จะโฟกัสให้ได้ 100 เปอร์เซ็นต์
“Learn how to give 100% focus.” บทเรียนนี้มาจาก Windy Nicholson รองประธานบริหารของ Salesforce ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งเป็นบทเรียนที่ได้มาจากตอนที่ Windy Nicholson ได้รับมอบหมายให้แก้ปัญหาเรื่องรายได้ที่ลดลง โดยมีเวลาแค่ 30 วันตั้งแต่การรวบรวมทีมทำงาน หาแนวทางแก้ไข และทดลองแนวทางต่าง ๆ โดยการที่โฟกัสที่งานดังกล่าว 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ Windy Nicholson สามารถแก้ไขปัญหาและหารายได้ราว 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มาชดเชยได้ในเวลาเพียงแค่ 27 วัน
5. วิธีที่ดีที่สุดในการทำนายอนาคต คือการสร้างมันขึ้นมา
“The best way to predict the future is to invent it.” คือคำกล่าวของ Alan Kay นักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ชื่อดัง ผู้คิดค้นการเขียนโปรแกรมแบบ Object-Oriented Programming ซึ่งคำกล่าวนี้เป็นการส่งเสริมการมีวิสัยทัศน์ มองการณ์ไกล และกล้าที่จะคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าผู้นำโดยเฉพาะในสายเทคฯ ควรมีความกล้าที่จะคิดค้นสิ่งใหม่ ๆ ออกจากกรอบเดิม ๆ และส่งเสริมให้เกิดการทดลองอยู่ตลอดเวลา เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมใหม่ ๆ ให้เกิดขึ้นได้ดั่งใจ
6. เทคโนโลยีที่ทรงพลังที่สุด คือเทคโนโลยีที่เพิ่มศักยภาพให้ผู้อื่น
"The most powerful technologies are the ones that empower others." กล่าวโดย Jensen Huang CEO ของ Nvidia ผู้ผลิตชิป GPU รายหลักของโลกที่ทำให้เทคโนโลยีเอไอเฟื่องฟู ซึ่งคำกล่าวนี้ได้สะท้อนแนวคิดเบื้องหลังความสำเร็จของ Nvidia ที่มุ่งมั่นจะสร้างเทคโนโลยีที่ไม่เพียงแค่สร้างกำไรและพาบริษัทให้เติบโตเท่านั้น แต่มีเป้าหมายไกลถึงการเปลี่ยนแปลงโลกและผลักดันเทคโนโลยีอื่น ๆ ให้เติบโตเพื่อโลกที่ดีขึ้น เหมือนดังที่เกิดกับเอไอในปัจจุบัน
ที่เซอร์ทิสเราให้ความสำคัญกับการมีวิสัยทัศน์ แนวคิดริเริ่ม และความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาและเติบโตไปในโลกของเทคโนโลยี และสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่จะพาธุรกิจสู่ความสำเร็จ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับเราได้ที่: https://www.sertiscorp.com/
Comments