นอกเหนือจากทำเลที่ตั้ง ลูกค้า รสชาติ คุณภาพอาหาร และการบริการแล้ว การจัดการวัตถุดิบ คืออีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ที่เป็นตัวกำหนดความอยู่รอดของธุรกิจร้านอาหารว่าจะสามารถสร้างยอดขายและกำไรได้หรือไม่ ดังนั้นจะเป็นอย่างไรถ้าหากเรามีโซลูชันที่ช่วยจัดการคลังวัตถุดิบ (Inventory) และห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของร้านอาหารให้ดีกว่าเดิม ร้านอาหารจะสามารถเพิ่มยอดขายและเติบโตได้มากแค่ไหน?
AI Ordering คืออะไร?
โซลูชัน AI Ordering จากเซอร์ทิส คือ โซลูชันที่ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเอไอ เพื่อวิเคราะห์และบริหารจัดการ Inventory และ Supply Chain ของเราให้มีประสิทธิภาพ และลดความผิดพลาดได้สูงสุด
โดย AI Ordering จะติดตามเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลวัตถุดิบใน Inventory ข้อมูลยอดขาย ข้อมูลพฤติกรรมลูกค้า ข้อมูลเทรนด์สินค้า และข้อมูลอื่น ๆ ภายนอก เช่น ข้อมูลสภาพอากาศ เพื่อคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าให้แม่นยำที่สุดก่อน จากนั้นจึงคำนวณระดับสต๊อกที่เหมาะสมและวางแผนสั่งวัตถุดิบให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป เพื่อลดต้นทุนจากการเหลือทิ้ง และยังรักษาโอกาสในการขาย ไม่ให้วัตถุดิบขาดสต๊อก
AI Ordering ทำอะไรได้บ้าง?
1. จัดการเติมสต๊อกสินค้าให้แม่นยำไม่ขาดทุน
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การดำเนินงานในร้านอาหารในแต่ละวันนั้นผ่านไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างกำไรที่ช่วยให้ร้านอาหารอยู่ได้ คือการมีสต๊อกวัตถุดิบที่พร้อมใช้งานและเพียงพอต่อการใช้งานอยู่ตลอดเวลา แต่เส้นบาง ๆ ของการมีวัตถุดิบเพียงพอกับการมีวัตถุดิบมากเกินไปจนเหลือทิ้งนั้นเป็นเส้นที่อันตรายมาก และอาจเปลี่ยนจากกำไรไปเป็นขาดทุนได้หากผิดพลาดเพียงเล็กน้อย การคำนวณ Inventory อย่างแม่นยำและใช้ต้นทุนวัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพสูงสุดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ร้านอาหารต้องคำนึงถึง
AI Ordering เพิ่มความแม่นยำในการคำนวณและจัดการ Inventory ด้วยการใช้เทคโนโลยีเอไอในการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลวัตถุดิบ ร่วมกับข้อมูลเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้า ทั้งยอดขาย เทรนด์ พฤติกรรมของลูกค้า และแนวโน้มความต้องการสินค้า AI Ordering จะทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยตัดสินใจแทนเราว่า วันนี้ควรจะสั่งวัตถุดิบชนิดไหนเป็นจำนวนเท่าไร ด้วยความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลมหาศาลของเอไอ ทำให้ผลการคาดการณ์และการคำนวณมีความแม่นยำ และลดโอกาสในการเกิดความผิดพลาดลงได้
2. เพิ่มยอดขายสูงสุด
การเพิ่มยอดขายให้ได้สูงสุดโดยใช้ความช่วยเหลือจากเอไอนั้นมีวิธีที่หลากหลาย ตั้งแต่การใช้เอไอมาช่วยทำความเข้าใจลูกค้า และทำการตลาดแบบ Personalization เพื่อดึงดูดใจลูกค้า การใช้เอไอมาช่วยเพิ่มความเร็วในการปฏิบัติการเพื่อเพิ่มความพึงพอใจให้ลูกค้า และหนึ่งในสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การที่ร้านมีสินค้าที่ลูกค้าต้องการเตรียมพร้อมไว้ทุกเมื่อ ช่วยลดการเสียโอกาสและเพิ่มยอดขายได้สูงสุด
AI Ordering เข้ามาเป็นตัวช่วยที่ทำให้เราแน่ใจว่าเราจะสามารถเติมเต็มความต้องการของลูกค้าได้ทุกเมื่อ ด้วยการดูแลคลังวัตถุดิบให้พร้อมและเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ เพื่อที่เมื่อไรก็ตามที่ลูกค้าต้องการสินค้า เราจะสามารถตอบสนองได้ทัน ไม่เสียโอกาสจากการที่วัตถุดิบขาดสต๊อก และยังสามารถซื้อใจลูกค้าได้อีกด้วย
3. ลดต้นทุนในการปฏิบัติงาน
เทคโนโลยีเอไอเปิดโอกาสให้เราเข้าถึงข้อมูลได้มากกว่าที่เคย ทำให้ทั้งร้านอาหาร และธุรกิจอื่น ๆ ที่ใช้เอไอ สามารถเข้าใจทุกแง่มุมของการปฏิบัติงานและสถานการณ์ในธุรกิจของตนเองได้มากกว่าเดิม ด้วยความสามารถในการเข้าถึง เก็บ และวิเคราะห์ข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้นนี้ ทำให้ธุรกิจสามารถตรวจสอบได้ว่าช่องโหว่ในระบบอยู่ตรงไหน และแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด
ในกรณีของ AI Ordering นั้นจะช่วยร้านอาหารมองหาโอกาสในการลดต้นทุน ด้วยการติดตามคลังวัตถุดิบ ตัดสินใจในการสั่งวัตถุดิบอย่างแม่นยำและให้ตรงตามความต้องการในแต่ละสถานการณ์มากขึ้น ทำให้มีวัตถุดิบเหลือทิ้งน้อยลง และลดต้นทุนจากความผิดพลาดได้ นอกจากนี้การลดต้นทุนด้วย AI Ordering ยังต่อเนื่องไปถึงการลดต้นทุนในส่วนของทรัพยากรบุคคลและเวลาที่พนักงานเคยต้องเสียไปกับการทำงานด้วยตนเองทั้งหมดอีกด้วย
4. เพิ่มประสิทธิภาพให้ระบบ Supply Chain โดยรวม
ระบบ Supply Chain คือหัวใจสำคัญของร้านอาหาร คือท่อจ่ายน้ำที่ทำให้ร้านอาหารปฏิบัติงานได้อย่างราบรื่นในแต่ละวัน แต่ในขณะเดียวกันระบบ Supply Chain ก็เป็นระบบที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา และอ่อนไหวต่อปัจจัยภายนอก ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์ในตลาด ปัจจัยเรื่องดินฟ้าอากาศ หรือเรื่องยอดขายที่เปลี่ยนแปลง ก็ล้วนกระทบกับการจัดการระบบ Supply Chain ทั้งสิ้น การบริหารจัดการ Supply Chain อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมงจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของร้านอาหารได้ และแม้จะเป็นเรื่องที่แรงงานคนอาจทำได้ยาก แต่ปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีอย่างเอไอที่ช่วยอุดรอยรั่วตรงนี้ได้
AI Ordering ใช้เทคโนโลยีเอไอที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง โดยสามารถติดตามและวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้า ทั้งความต้องการทั่วไป ความต้องการที่เป็นเทรนด์ใหม่ ๆ หรือความต้องการตามฤดูกาลที่เกิดขึ้นชั่วคราว โดยทำการคาดการณ์ ความต้องการของลูกค้าจากพฤติกรรมของลูกค้า ติดตามคลังวัตถุดิบ จากนั้นจึงวางแผนจำนวนและเวลาในการสั่งวัตถุดิบ เพื่อเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมรองรับความต้องการอยู่เสมอ และวางแผนการสั่งจาก Supplier ที่มีคุณภาพและให้ราคาที่เหมาะสม ซึ่งการจัดการ Supply Chain จะปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์ได้แบบเรียลไทม์ นอกจากนี้ AI Ordering ยังช่วยดูเรื่องการบริหารความหลากหลายของสินค้า ให้มีวัตถุดิบพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ
Case Study: McDonald’s กับอีกระดับของการจัดการ Supply Chain
เครือร้านอาหารขนาดใหญ่ระดับโลกอย่าง McDonald’s ก็เป็นอีกตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีเอไออย่างเต็มกำลังในการจัดการกับ Inventory และระบบ Supply Chain โดยรวม โดยเทคโนโลยีของ McDonald’s ใช้เอไอในการติดตาม Inventory และสามารถทำได้ถึงขั้นที่นำข้อมูลวัตถุดิบมากระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าให้สอดคล้องกับวัตถุดิบในคลังแบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มยอดขาย ลดอาหารเหลือทิ้ง และจัดการ Supply Chain ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากเนื้อไก่ในคลังใกล้จะหมด แต่มีเนื้อวัวเหลือเยอะ ระบบจะทำการปรับเปลี่ยนเมนูหน้าร้านแบบไดนามิค ให้เมนูที่ต้องใช้ไก่หายไป และนำเสนอเมนูเนื้อวัวขึ้นมาแทนในหน้าแรก เพื่อลดการเสียโอกาสในการขาย และเร่งขายเนื้อให้หมดเพื่อไม่ให้เหลือทิ้ง
จากกรณีศึกษาของ McDonald’s จะเห็นได้ว่า แม้ AI Ordering จะดูเหมือนว่าเข้ามาแก้ไขแค่ส่วนเดียวของการจัดการร้านอาหาร แต่ก็สามารถสร้างผลกระทบทางบวกไปถึงยอดขายได้ ส่วนของการดูแล Inventory นั้นเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุดในการรักษาประสิทธิภาพในการทำงานและรักษายอดขายให้ร้านอาหารอยู่ได้และเติบโตต่อไป
การใช้ AI Ordering จึงเป็นโซลูชันสำคัญที่ร้านอาหารไม่ควรมองข้าม เพื่อพลิกโฉมการทำงานที่เคยพึ่งพาแรงงานคนเป็นหลัก ซึ่งมีแนวโน้มเกิดความผิดพลาดที่กลายเป็นต้นทุนและการเสียโอกาส โดย AI Ordering จะช่วยเพิ่มยอดขาย เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และช่วยให้ร้านอาหารอยู่รอดได้ในยุคที่การแข่งขันสูงขึ้นเรื่อย ๆ
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน AI Ordering จากเซอร์ทิสได้ที่: https://www.sertiscorp.com/retail
Kommentare