กระแสของ Generative AI เรียกได้ว่ามาแรงที่สุดในยุคนี้ โดยมีเครื่องมือ Generative AI จากค่ายต่าง ๆ ออกมาให้เราเลือกใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ChatGPT, Gemini, หรือ Claude ซึ่งเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะที่ช่วยประหยัดเวลาการทำงานให้เราได้เป็นอย่างมาก
ซึ่งเครื่องมือ Generative AI เหล่านี้สามารถเอาไปประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย ขอเพียงแค่เราป้อนคำสั่ง หรือที่เรียกว่า Prompt ให้เหมาะสมก็สามารถทำงานเป็นผู้ช่วยสารพัดอย่างให้เราได้ ไม่ว่าจะงานสายเทคฯ เขียนคอนเทนต์ หรือเขียนโค้ดก็สามารถทำได้หมด
วันนี้เราเลยอยากพาผู้อ่านทุกคนไปดูกันว่า แต่ละทีมในบริษัทด้านเอไออย่างเซอร์ทิส ใช้เครื่องมือ Generative AI ช่วยงานด้านไหนกันบ้าง บอกเลยว่าใช้ทำงานได้หลากหลาย และประหยัดเวลาให้แต่ละทีมได้เป็นอย่างมากเลยครับ
Talent Acquisition
สำหรับทีม Talent Acquisition ก็จะมีการใช้ Generative AI ในการช่วยคิดคำถามสัมภาษณ์ เนื่องจากเวลาสัมภาษณ์ผู้สมัครแต่ละคนซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างกัน เราไม่สามารถใช้ชุดคำถามเดียวกันไปตลอดได้ ทางทีมก็จะใช้ Generative AI ช่วยลิสต์คำถามมาให้ก่อนว่ามีคำถามอะไรที่น่าสนใจบ้าง แล้วจึงนำมาเลือกเองอีกรอบหนึ่ง
และนอกจากนี้ก็จะมีการใช้ Generative AI ในการช่วยร่างอีเมล เนื่องจากทีม Talent Acquisition ต้องเขียนอีเมลจำนวนมาก ถึงจะสามารถเขียนเองได้ แต่ใช้เวลาค่อนข้างเยอะ ก็เลยใช้ Generative AI ในการช่วยเขียนเพื่อประหยัดเวลาอีกทีหนึ่ง
UX/UI
สำหรับทีม UX/UI ส่วนใหญ่ก็จะใช้ในการทำส่วนของ User Research เช่นช่วยทำการ Analysis ทำ Quality Survey หรือถ้าหากมีการสัมภาษณ์ผู้ใช้งานมา ทีมก็จะนำบทสัมภาษณ์มาสรุปด้วยตัวเองก่อน แล้วจึงจะเอาไปให้ Generative AI ช่วยสรุปอีกทีหนึ่งให้ชัดเจนขึ้น เช่น ช่วยในการจัดกลุ่ม ช่วยทำ Affinity Mapping หรือช่วยสรุปว่าผู้ใช้แต่ละกลุ่มพูดถึงอะไรมากที่สุด การใช้ Generative AI ก็จะช่วยประหยัดเวลาได้เยอะมาก
Business Development
สำหรับทีม Business Development ก็จะมีการใช้ Generative AI ช่วยหลากหลาย เช่น ใช้ร่างอีเมล หาไอเดียในการคิดชื่อ Product ต่าง ๆ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาได้แทบจะเท่าตัว เพราะ Generative AI สามารถร่าง Template ในการเขียนอีเมลรูปแบบต่าง ๆ มาให้พร้อมใช้อยู่แล้ว จากนั้นเราก็สามารถนำไปปรับคำตามที่เราต้องการได้
นอกจากนี้เรายังสามารถใช้ Generative AI ช่วยหาไอเดียเพิ่มเติมในการออกแบบคอนเซ็ปต์ของโซลูชันต่าง ๆ รวมถึงเป็นตัวช่วยในการเขียนโค้ดเพื่อช่วยทำ Proof of Concept (PoC) อย่างคร่าว ๆ หรือตรวจสอบความเป็นไปได้ของโซลูชันต่าง ๆ ช่วยให้เราตั้งโครงในการทำงานได้ง่ายขึ้น รวมถึงช่วยย่อยข้อมูลเชิงเทคนิคให้อยู่ในรูปแบบที่เข้าใจง่าย เอาไปทำงานต่อได้ง่ายขึ้น
Data Analytics
สำหรับทีม Data Analytics ก็มีการใช้ Generative AI ในการช่วยเขียน SQL หรือเขียนโค้ด Python ต่าง ๆ รวมถึงใช้ในการช่วย Debug หรือหาข้อผิดพลาดในโค้ดของเรา และใช้ในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นเพื่อนำมาต่อยอดได้ ถือเป็นเครื่องมือที่ช่วยประหยัดเวลาให้เราได้เยอะมาก ๆ
อีกบทบาทหนึ่งของ Generative AI คือการใช้ในรูปแบบของตัวช่วยให้เราสามารถฝึกเรียนรู้การใช้เครื่องมือใหม่ ๆ ได้ โดยให้ Generative AI รับบทบาทในการทำหน้าที่สอนเราไปทีละจุด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นข้อมูลจาก Generative AI ก็ไม่ได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ เราเองก็ต้องแยกแยะ โดยใช้ไปทดลองไป
Software Engineering
สำหรับทีม Software Engineering ก็จะมีการใช้ Generative AI เช่น Github Co-pilot หรือ Gemini Code Assist เพื่อให้คำแนะนำและตอบคำถามในเรื่องที่เราไม่มั่นใจ เช่น การประเมินว่าจะเขียนโค้ดออกมาในรูปแบบไหนได้บ้าง ให้ได้ฟังก์ชันที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า โดย Generative AI ก็สามารถให้คำแนะนำได้เลยว่าเราควรทำอย่างไร และไปในทิศทางไหนได้บ้าง ซึ่งทำให้เราสามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น
บางครั้งอาจจะมีการให้ Generative AI ช่วยเขียนโค้ดให้ในเบื้องต้น จากนั้นจึงนำมาปรับแต่งให้เหมาะสมอีกทีหนึ่ง รวมถึงมีการใช้ในการช่วยหาข้อมูลต่าง ๆ เช่น เมื่อเจอ Error ที่เราไม่เคยเจอมาก่อนในโค้ดที่เราเขียน ก็สามารถให้ Generative AI ช่วยดูให้ว่า Error รูปแบบนี้เกี่ยวข้องกับอะไร และแนะนำแนวทางแก้ไข เป็นต้น
Corporate Communications
สำหรับทีม Corporate Communications ก็มีการใช้ Generative AI ในหลากหลายงาน ตั้งแต่การหาไอเดียสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ ช่วยวางโครงเรื่องในการเขียนบทความรูปแบบต่าง ๆ เช่น แคปชันสำหรับโซเชียลมีเดีย บทความยาว หรือข่าว ไปจนถึงช่วยหาข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อนำมาประกอบการเขียน แต่ข้อมูลนั้นก็ต้องนำไปตรวจเช็กความถูกต้องอีกครั้งหนึ่งเช่นกัน
นอกจากนี้ Generative AI ยังสามารถช่วยตรวจคำผิด ปรับโทนภาษาตามความเหมาะสม โดยเฉพาะคอนเทนต์ภาษาอังกฤษ รวมไปถึงบางครั้งก็สามารถแปลภาษาให้เราได้เลยในเบื้องต้น จากนั้นเราก็จะนำมาตรวจสอบความถูกต้องและปรับให้เหมาะสมอีกครั้งหนึ่ง
ในส่วนของงานด้านกราฟิกดีไซน์ เราสามารถใช้ Generative AI มาช่วยสร้างองค์ประกอบต่าง ๆ ในภาพ โดยเราสามารถป้อนคำสั่งให้ Generative AI สร้างภาพใหม่ ๆ ตามสั่งออกมา จากนั้นจึงสามารถนำองค์ประกอบเหล่านั้นมาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบภาพกราฟิกให้ตรงตามความต้องการ ทำให้ทำงานได้รวดเร็วขึ้น
จะเห็นได้ว่าความสามารถของโมเดล Generative AI นั้นนำไปประยุกต์ใช้ได้ในงานหลากหลายแขนง และสามารถลดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างมาก และปัจจุบันนี้ธุรกิจก็สามารถพัฒนาโมเดล Generative AI ที่ออกแบบมาเฉพาะตามความต้องการของธุรกิจได้
ที่เซอร์ทิส เราเป็นผู้ให้บริการโซลูชันด้าน Generative AI ชั้นนำ พร้อมด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญที่สามารถออกแบบและพัฒนาโซลูชัน Generative AI และโซลูชันด้านเอไอและดาต้าอื่น ๆ ที่พร้อมแก้ไขทุกปัญหา ตอบโจทย์ทุกความต้องการ พาธุรกิจให้พัฒนาได้อย่างยั่งยืน
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชันจากเซอร์ทิสและติดต่อเราได้ที่: https://www.sertiscorp.com/contact-us
Comments