เป็นที่ทราบกันดีว่าธุรกิจโทรคมนาคมคือตัวแปรชิ้นสำคัญที่เชื่อมต่อเราให้เข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทันสมัย เปรียบเสมือนเป็นอีกหนึ่งรากฐานของเมืองในปัจจุบัน ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าในธุรกิจโทรคมนาคมมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอยู่เสมอ เช่น มีการนำคลื่นไมโครเวฟ ใยแก้วนำแสง ดาวเทียม หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ เข้ามาใช้เพื่อพัฒนาระบบการสื่อสารและอินเทอร์เน็ตให้รวดเร็วทันใจ และพัฒนาระบบภาพและเสียงให้มีความคมชัดขึ้นกว่าเดิม
ซึ่งการพัฒนาดังกล่าวจะยังไม่หยุดอยู่เพียงเท่านี้ เพราะในปัจจุบันบริษัทชั้นนำด้านโทรคมนาคมต่าง ๆ ได้ให้ความสำคัญและลงทุนในการนำเอไอซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญของยุคนี้มาใช้พัฒนาระบบการสื่อสารด้วยเช่นกัน เพื่อเป้าหมายในการสร้างบริการที่ดียิ่งขึ้นให้กับลูกค้า รวมทั้งพัฒนากระบวนการทำงานในองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งผมจะขอยกตัวอย่างที่น่าสนใจของการนำเอไอมาใช้ในระบบโทรคมนาคมในบทความนี้ เริ่มจาก การนำเอไอเข้ามาปรับปรุงเครือข่ายการใช้งาน (Network Optimization) โดยหลังจากวิเคราะห์ข้อมูลปริมาณการใช้งานและการเข้าถึงเครือข่ายของผู้ใช้งานในแต่ละภูมิภาคและเขตเวลา เอไอจะแนะนำการเชื่อมต่อเครือข่ายที่เหมาะสมสำหรับระบบโทรคมนาคมในช่วงนั้น ๆ รวมทั้งจับสัญญาณความผิดปกติที่จะเกิดขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมต่อการรับมือแก้ปัญหา และสร้างความมั่นใจว่าระบบเครือข่ายจะสามารถให้บริการผู้ใช้งานได้อย่างมีคุณภาพตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ มีการนำเอไอเข้ามาใช้ในการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ (Predictive Maintenance) โดยอาศัยความสามารถของแมชชีนเลิร์นนิงศึกษาข้อมูลที่ผ่านมา เพื่อทำนายแนวโน้มปัญหาเครือข่ายล่มที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต รวมทั้งคาดการณ์การซ่อมบำรุงอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่สำคัญต่าง ๆ เช่น หอส่งสัญญาณ สายไฟ เซิร์ฟเวอร์ หรือแม้กระทั่งกล่องทีวีดิจิทัลที่บ้านของผู้ใช้บริการ เมื่อได้ข้อมูลการคาดการณ์เหล่านี้แล้ว เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้วางแผนเข้าไปตรวจสอบแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ก่อนปัญหานั้น ๆ จะเกิดขึ้นจริง และเมื่อพิจารณาถึงผลประโยชน์ในระยะยาว ผู้ประกอบการจะลดต้นทุนเรื่องการซ่อมบำรุงรักษาอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ได้ และยังเกิดเป็นการสร้างประสบการณ์การใช้งานที่ดีเยี่ยมให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย
อีกหนึ่งตัวอย่างที่น่าสนใจคือ การสร้างผู้ช่วยเสมือนจริง (Virtual Assistants) เพื่อรองรับปริมาณผู้ใช้งานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งเป็นการสร้างประสบการณ์รูปแบบใหม่ให้กับกลุ่มลูกค้าบางกลุ่มที่นิยมโต้ตอบและรับข้อมูลกับระบบอัตโนมัติ โดยอาจพิจารณาเริ่มใช้กับการให้บริการในบางส่วนก่อน เช่น แนะนำวิธีการแก้ปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตัวเอง เช่น การติดตั้งอุปกรณ์ วิธีรีเซ็ทเครือข่ายสัญญาณ การตั้งค่าพื้นฐาน เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ช่วยเสมือนจริงจะทำหน้าที่ในการคัดกรองหัวข้อความต้องการของลูกค้า เพื่อส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ดูแลแก้ปัญหาต่อได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
อีกส่วนสำคัญที่เอไอสามารถเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจโทรคมนาคมได้ คือ การป้องกันการทุจริตการใช้งานเครือข่าย (Fraud Prevention) ซึ่งเอไอสามารถเรียนรู้และจับรูปแบบพฤติกรรมการใช้งานที่ต่างไปจากเดิม หรือพฤติกรรมน่าสงสัยที่จะนำไปสู่กระบวนการทุจริต เช่น การเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการสร้างและใช้บัญชีปลอมเพื่อการทุจริต ซึ่งเอไอจะทำการบล็อคการเข้าถึงได้อย่างรวดเร็วในทันทีที่พบเจอ พร้อมทั้งรายงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันความเสียหายมหาศาลที่อาจจะตามมาได้
จากตัวอย่างข้างต้นจะเห็นได้ว่า มีการนำเอไอเข้ามาใช้พัฒนาการบริการ และกระบวนการทำงานของธุรกิจคมนาคมมากขึ้นในหลายมิติ ซึ่งสร้างผลดีในระยะยาวทั้งกับผู้ประกอบการและผู้ใช้งานให้ได้รับประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะรายงานสถิติของผลสำรวจต่าง ๆ ได้ชี้ให้เห็นว่า จำนวนผู้ใช้งานเครือข่ายต่าง ๆ มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งเป็นผลมาจากไลฟ์สไตล์และการเข้าถึงข้อมูลสารสนเทศน์ได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เอไอจึงเปรียบเสมือนเทคโนโลยีสำคัญที่จะเข้ามาช่วยขับเคลื่อน พัฒนาระบบโทรคมนาคมให้ได้มาตรฐาน ก้าวผ่านข้อจำกัดการใช้งานในด้านต่าง ๆ และมีประสิทธิภาพตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด
Comments